วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Google Chrome

1.Title bar (แถบชื่อ) แสดงชื่อเว็บที่เรากำลังใช้อยู่

2. Menu Bar (แถบเมนู) ทำหน้าที่แสดงเมนูคำสั่งต่างๆ ซึ่งแบ่งกลุ่มของคำสั่ง โดยประกอบไปด้วย เมนูFile, เมนูEdit,เมนูViewและเมนูFavorites

3. Address Bar (แถบที่อยู่) ทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ต่างๆ

4.แถบบุ๊กมาร์ก หน้าเว็บโปรดของคุณจะแสดงอยู่ที่ด้านบนของหน้าแท็บใหม่เป็นค่าเริ่มต้น

5. Apps ไอคอนสำหรับแอปที่คุณได้ติดตั้งจาก Chrome เว็บสโตร์สามารถเข้าถึงได้โดยการคลิกบุ๊กมาร์ก Apps ในแถบบุ๊กมาร์ก เมื่อคุณอยู่ในหน้า Chrome Apps เพียงคลิกที่ไอคอนเพื่อเปิดแอป

6. ช่องค้นหา เริ่มพิมพ์คำค้นหาของคุณลงในช่องค้นหา และคุณจะเห็นคำค้นหาของคุณปรากฏขึ้นในแถบอเนกประสงค์ คุณยังสามารถป้อน URL เพื่อนำทางไปยังหน้าเว็บได้อีกด้วย

7. เข้าชมบ่อยสุด ภาพขนาดย่อของเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมเป็นประจำจะปรากฏอยู่ด้านล่างช่องค้นหา เพียงคลิกที่ภาพขนาดย่อที่ต้องการเพื่อไปที่ไซต์นั้น หากต้องการนำไซต์ที่เข้าชมบ่อยที่สุดออก ให้วางเมาส์เหนือภาพขนาดย่อ และคลิกไอคอน X ที่มุมขวาบนของภาพขนาดย่อนั้น

Internet explorer



วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แบบฝึกหัดอินเตอร์เน็ต

แบบฝึกหัดอินเตอร์เน็ต

1.      จงค้นหาเว็บไซต์ที่มีโดเมนเป็นดังต่อไปนี้อย่างละ 5 เว็บไซต์แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น
ตอบ
-          www.google.com  โดเมน นามสกุล .COM ใช้ทำเว็บไซต์ของบริษัท ห้างร้านโดยทั่วไป รวมทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว และมีบางครั้งนำไปใช้ทำเว็บไซต์ (web site) ประเภทอื่นๆ
www.  Company .co.th
 บริการ จดโดเมน ".co.th"
.co.th เป็นนามสกุล Domain name สำหรับ การพาณิชย์และธุรกิจ ได้แก่ บริษัท, ห้างหุ้นส่วน เครื่องหมายการค้าซึ่งจะต้องเป็นองค์กรพาณิชย์ ที่จดทะเบียนในประเทศไทย หรือ บริษัทต่างประเทศ ที่มีตัวแทนอยู่ ในประเทศไทย 1 บริษัทสามารถขอจดได้เพียง 1 ชื่อ โดยลักษณะชื่อต้องเป็น ชื่อเต็ม ชื่อย่อ ชื่อที่สื่อความหมายถึงบริษัท หรือชื่อเครื่องหมายการค้าเท่านั้น 

-   www. Academic Organization .ac.th 
ac.th เป็น Domain name สำหรับสถาบันการศึกษา โรงเรียน มหาวิทยาลัย วิทยาลัย 1 สถาบัน สามารถขอจดทะเบียนได้เพียง 1 ชื่อ โดยชื่อโดเมนเนมที่ตั้ง มีความสอดคล้องกับชื่อสถาบันการศึกษา เป็นชื่อย่อ ชื่อเต็ม ของสถาบัน

เอกสารที่ใช้ จดโดเมน .ac.th คือ
หนังสือจัดตั้ง หน่วยงาน สถาบันการศึกษา โรงเรียน มหาวิทยาลัย กรณีที่ไม่สามารถแสดงหนังสือจัดตั้งสถาบันได้ ให้ออกหนังสือรับรอง ระบุชื่อสถานศึกษา ที่อยู่ และสังกัด โดยระบุชื่อโดเมนที่ต้องการจดทะเบียน ลงนามพร้อมประทับตรา จากผู้บริหารสถานศึกษา

-      www. Government .go.th  .go.th เป็น Domain name สำหรับ หน่วยงานรัฐบาล และ ส่วนราชการ กระทรวง หรือ หน่วยงานสังกัดรัฐบาล ซึ่งจะต้องเป็น หน่วยงาน ของ รัฐบาลไทย หรือ หน่วยงาน/โครงการ ในสังกัด

เอกสารที่ใช้ จดโดเมน .go.th คือ
ใช้หนังสือ เอกสารคำร้อง ขอจดทะเบียนโดเมนเนม ที่ออกโดยผู้บริหารหน่วยงานนั้นๆ เป็นหนังสือที่แจ้งชื่อโดเมนเนม.go.th ให้ทางผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง (Chief Information Officer : CIO) ของกระทรวง/กรม ต้นสังกัด รับทราบ 
-        www.  Non-profit Organization.or.th   ro .th เป็น Domain name สำหรับ องค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร เช่น มูลนิธิ สมาคม ชมรม ศูนย์ หรือ สถานทูต ต่างประเทศ ประจำประเทศไทย

เอกสารที่ใช้ จดโดเมน .or.th คือ
หนังสือจัดตั้งหน่วยงาน เช่น หนังสือจัดตั้งสมาคม หนังสือจัดตั้งมูลนิธิ กรณีที่ไม่สามารถแสดงหนังสือจัดตั้งองค์กรได้นั้น จะต้องแสดงหนังสือซึ่งประกอบด้วย ประธาน, คณะกรรมการ, จุดประสงค์ที่เด่นชัด, ที่อยู่ที่แน่นอน และมีหน่วยงานที่เป็นที่รู้จักรับรองว่า มีหน่วยงานของท่านอยู่จริง 
ที่มา https://www.ireallyhost.com/docs/dotth
2.      จงค้นหาเว็บไซต์ที่ให้บริการ Search Engine มาอย่างน้อย 3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น
ตอบ
Yahoo     http://www.yahoo.com
Yahoo (อ่านว่า ยา-ฮูเป็น Search Engine ที่เก่าแก่และเรียกว่ามีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดตัวหนึ่งในอาณาจักรอินเทอร์เน็ต จุดเด่นหลักของเว็บไซต์นี้คงมาจากความสามารถในการค้นหาข้อมูลที่ทำได้อย่างรวดเร็ว จุดหนึ่งที่ทำให้ Yahoo โดดเด่นเป็นพิเศษก็คือการแบ่งเว็บไซต์ที่เก็บในฐานข้อมูลออกเป็นหมวดหมู่และยังมีการโยงใยระหว่างกลุ่มย่อยแต่ละกลุ่มเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
Go
http://www. go.com
เป็น Search Engine  ที่มีฐานข้อมูลขนาดใหญ่และยังรวมถึงฐานข้อมูลของรายชื่ออีเมล์และนิวส์กรุ๊ปได้ เป็น Search Engine ที่เป็นแบบ  นามานุกรมที่มีความเร็วในการค้นหา อีกทั้งหน้าตาเว็บยังสวยงาม และมีลูกเล่นด้วย

Sanook
เป็นเว็บไซต์ชื่อดังของไทยที่เป็นแหล่งค้นหา
ข้อมูลของไทยที่มีข้อมูลให้ค้นหามากมายทั้ง
ของไทยและทั่วโลกซึ่งมีทั้งแบบนามานุกรม
และคำค้น ซึ่งจะบอกที่อยู่ของเว็บไซต์และ
มีคำอธิบายเว็บที่หาอย่างเข้าใจง่าย และยังสามารถ
ส่งเว็บไซต์นี้ให้เพื่อนๆ ทางอีเมล์ด้วย

ที่มา https://sites.google.com/site/tirmaspannil/kar-subkhn-khxmul/4-websit-search-engine-thi-di-rab-khwam-niym
3.      จงค้นหาเว็บไซต์ที่ให้บริการ E-mail มาอย่างน้อย 3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น
ตอบ
เป็นเว็บไซต์ชื่อดังของไทยที่เป็นแหล่งค้นหา
ข้อมูลของไทยที่มีข้อมูลให้ค้นหามากมายทั้ง
ของไทยและทั่วโลกซึ่งมีทั้งแบบนามานุกรม
และคำค้น ซึ่งจะบอกที่อยู่ของเว็บไซต์และ
มีคำอธิบายเว็บที่หาอย่างเข้าใจง่าย และยังสามารถ

2. คนไทยดอตคอม เป็นบริการอีเมลฟรีสำหรับคนไทยทุกคน ที่ทางกระทรวงมหาดไทยจัดทำให้ โดยชื่ออีเมลจะเป็นตัวอักษร "P" ตามด้วยเลขประจำตัวประชาชน และตามด้วย "@khonthai.com" เดิมสามารถสมัครได้ผ่านอินเทอร์เน็ต แต่ปัจจุบันต้องยื่นเรื่องขอที่ทางสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ

3.  ยาฮู! (Yahoo! Mail) บริการอีเมลจากยาฮู
ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5
4.      จงค้นหาเว็บไซต์ที่สนใจอย่างน้อย 3 เว็บไซต์ แล้วบอกรายละเอียดของเว็บไซต์นั้น (ไม่ซ้ำกับข้อ 1-3)
1. www.chiangmainews.co.th หนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ จังหวัดเชียงใหม่
2. www.pappayon.com เว็บไซต์เกี่ยวกับภาพยนต์ มีโปรแกรมภาพยนต์,เรื่องย่อ,วิจารณ์,จัดอันดับภาพยนต์ 
3. www.pratuthai.com รวมวาไรตี้ มีความหลากหลายทั้งสาระ ความรู้ ความบันเทิง ในชีวิตประจำวัน,รถยนต์,กีฬา,ธุรกิจ

5.      จงอธิบายความหมายของคำต่อไปนี้
ตอบ
-          Web board
WebBoard คือเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยใช้รูปแบบการแสดงผล HTML ที่นิยมใช้ใน World Wide Web (WWW ) ซึ่ง WebBoard อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเวปไซต์ และผู้พัฒนาเวปไซต์สามารถตั้งหัวข้อกระทู้ เพื่อประกาศข่าวสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ โดยทั่วไปมักเรียกเว็บบอร์ด(webboard)ว่า บอร์ด  หรือ กระดานข่าวสาร กระดานข่าวสารนั้นยังมีชื่อเรียกอื่นอีกมากมาย อาทิเช่น กระดานสนทนาออนไลน์,เว็บบอร์ด,เว็บฟอรัม,ฟอรัม,เมสเซจบอร์ด,บุลเลตอินบอร์ด,ดิสคัชชันบอร์ด ตัวอย่างในเว็บบอร์ดไทยได้แก่ พันทิป, เอ็มไทย เป็นต้น
-          Guestbook
สมุดเยี่ยมหรือที่เราเรียกกันว่า Guestbook เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์ ประโยชน์ของสมุดเยี่ยมก็คือการได้เก็บบันทึกข้อมูลของผู้เยี่ยมชม เพื่อบันทึกเป็นสถิติ หรือใช้เป็นข้อมูลเพื่อใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ของตนเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป การสร้างสมุดเยี่ยมนั้นไม่มีเทคนิคอะไรที่ซับซ้อนมากนัก เพียงแต่อาศัยการทำงานของโปรแกรมเล็กๆที่เกี่ยวข้องกัน 2-3 โปรแกรมเราก็จะได้สมุดเยี่ยมแล้ว นักเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่มักจะจัดทำสมุดเยี่ยมโดยใช้บริการจากเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการฟรี ด้วยการสมัครลงทะเบียน ซึ่งจะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว แต่มันคงจะไม่ดีนักหากเราต้องคอยอาศัยคนอื่นตลอดเวลา คล้ายกับการยืมจมูกคนอื่นหายใจนั่นเองครับ หากบุคคลหรือเว็บไซต์เหล่านั้นปิดตัวลงเราจะทำอย่างไรต่อไป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักศึกษาไอทีหรือนักไอทีทั้งหลาย ควรจะทำความเข้าใจและสร้างมันขึ้นมาเองได้ถึงจะได้ชื่อว่า "คนไอที"
-          Banner
ขึ้นกับการใช้สิ่งนี้ banner เป็นทั้งภาพกราฟฟิกที่ประกาศชื่อหรือเอกลักษณ์ของไซต์ (และมักจะวางตามด้านกว่างของเว็บ) หรือ เป็นภาพโฆษณา บางครั้ง ผู้โฆษณานับ banner ตามการ ดูหรือจำนวนครั้งของภาพกราฟฟิกได้รับการดาวน์โหลดตามช่วงเวลา
-          Pool น่วยความจำที่สร้างขึ้นไว้ภายในเครื่องพิมพ์ หรืออาจดึงออกมาจากหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ทำงานประสานระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครื่องพิมพ์

-          Uploadหมายถึง การส่งข้อมูลออกจากอุปกรณ์ของเรา? การส่งออกสามารถส่งในรูปแบบไม่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น ข้อความ รูปภาพ เสียง หรือแม้กระทั่งวีดีโอ ส่งออกไป โดยสามารถส่งออกได้ในช่องทางต่างๆ เช่น การส่งผ่าน Message / Email หรือแม้กระทั่งผ่าน FTP (อีกหนึ่งวิธีในการย้ายข้อมูล) เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้ ล้วนต้องการความเร็วในการอัพโหลดทั้่งสิ้น
-          Download
ดาวน์โหลด (Download)
หมายถึง การรับข้อมูลจากภายนอกเข้าสู่อุปกรณ์ภายในของเรา ไม่ว่าจะเป็นการ เปิิดเข้าหน้าเว็บ การ download ไฟล์จากเว็บ ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มของการ download เช่นเดียวกัน ยิ่งความเร็วในการดาวน์โหลดสูง ย่อมทำงานได้เร็วขึ้น

-          Counterเป็นวงจรพื้นฐานที่นิยมใช้กันมากในปํจุบันนี้ก็คือ "วงจรนับ" เนื่องจากวงจนับเป็นส่วนหนึ่งของวงจรที่มีอยู่ทั่วไปมากมาย เช่น วงจรวัดขนาดของสัญญาณ วงจรวัดคามถี่ นาฬิกาดิจิตอล และวงจรต่างๆในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น วงจรนับจะมีอยู่สองแบบคือ วงจรนับแบบไม่เข้าจังหวะ (Asynchronous Counter) และ วงจรนับแบบเข้าจังหวะ (Synchronous Counter)
ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/Counter
6. หาโจทย์เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตมาอย่างน้อย 5 ข้อ (เขียน ก ข ค ง พร้อมเฉลย)
ตอบ
      1. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่บ้านต้องเชื่อมผ่านอุปกรณ์ใด
    ก.  โมเด็ม                                     ข. เราท์เตอร์
  ค. ทีซีพี                                        ง.โปโตคอล
                                                                    ……. เฉลย  ค.

2. การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีกี่รูปแบบ
   ก.  2 รูปแบบ                                  ข. 3 รูปแบบ
    ค. 4  รูปแบบ                                  ง. 5 รูปแบบ
                                                                        ……. เฉลย ก.

3. การกำหนดรหัสผ่าน  Password  ควรใช้กี่ตัวอักษร
                      ก.  มากกว่า 3 ตัว                                  ข. มากกว่า 4 ตัว 
                      ค. มากกว่า 5 ตัว                                   ง. มากกว่า 6 ตัว
                                                                                     ...... เฉลย  ง.    

                4. ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์สำคัญในการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตพื้นฐาน
         ก.เครื่องคอมพิวเตอร์                               ข.โมเด็ม   
          ค. โทรศัพท์                                            ง.เราท์เตอร์
                                                                                     ......  เฉลย . ง.   

        5. อินเทอร์เน็ต  หมายถึง
                     ก. การเชื่อมต่อกันระหว่างเครือข่าย             ข. การเชื่อมต่อกันระหว่างบุคคลกับบุคคล

                     ค.การเชื่อมต่อกันระหว่างบุคคลกับองค์กร     ง. การเชื่อมต่อกันระหว่างองค์กรกับองค์กร

                                                                   …..  เฉลย  .




วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ความรู้เบื้องต้นอินเตอร์เนต

ความรู้เบื้อง ต้นอินเตอร์เน็ต
ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้

1.อินเตอร์เน็ต คือ  
ตอบ   ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยจะเป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องจากทั่วโลกมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ทั่วโลก ในการติดต่อกันระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องมีการระบุว่า ส่งมาจากไหน ส่งไปให้ใครซึ่งต้องมีการระบุ ชื่อเครื่อง (คล้ายกับเลขที่บ้าน) ในอินเทอร์เน็ตใช้ข้อตกลงในการติดต่อที่เรียกว่า TCP/IP (ข้อตกลงที่ทำให้คอมพิวเตอร์ติดต่อกันได้) ซึ่งจะใช้สิ่งที่เรียกค่า ไอพี-แอดเดรส” (IP-Address) ในการระบุชื่อเครื่องจะไม่มีเบอร์ที่ซํ้ากันได้
ที่มา http://www.dmc.tv/pages/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95.html


2.จงอธิบายพัฒนาการของอินเตอร์เน็ตมาพอสังเขป (5-10 บรรทัด) 
ตอบ  อินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน ถูกพัฒนามาจากโครงการวิจัยทางการทหารของกระทรวงกลาโหมของประเทศ สหรัฐอเมริกา คือAdvanced Research Projects Agency (ARPA) ในปี1969 โครงการนี้เป็นการวิจัยเครือข่ายเพื่อ
การสื่อสารของการทหารในกองทัพอเมริกา หรืออาจเรียกสั้นๆ ได้ว่า ARPA Net ในปี ค.ศ. 1970 ARPA Net ได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา คือ มหาวิทยาลัยยูทาห์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ซานตาบาบารา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่ลอสแองเจลิส และสถาบันวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีการใช้ อินเทอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น
สำหรับในประเทศไทย อินเทอร์เน็ตเริ่มมีการใช้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2530 ที่มหาวิยาลัยสงขลานครินทร์ โดยได้รับความช่วยเหลือจากโครงการ IDP (The International Development Plan) เพื่อให้มหาวิทยาลัยสามารถติต่อสื่อสารทาง
อีเมลกับมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นในออสเตรเลียได้ ได้มีการติดตั้งระบบอีเมลขึ้นครั้งแรก โดยผ่านระบบโทรศัพท์ ความเร็วของโมเด็มที่ใช้ในขณะนั้นมีความเร็ว 2,400 บิต/วินาที จนกระทั่งวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2531 ได้มีการส่งอีเมลฉบับแรกที่ติดต่อระหว่างประเทศไทยกับมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จึงเปรียบเสมือนประตูทางผ่าน (Gateway) ของไทยที่เชื่อมต่อไปยังออสเตรเลียในขณะนั้น
ในปี พ.ศ. 2533 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของสถาบันการศึกษาของรัฐ โดยมีชื่อว่า เครือข่ายไทยสาร (Thai Social/Scientific Academic and Research Network : ThaiSARN) ประกอบด้วย มหาวิยาลัยสงขลานครินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตภายในประเทศ เพื่อการศึกษาและวิจัย
ในปี พ.ศ. 2538 ได้มีการบริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ขึ้น เพื่อให้บริการแก่ประชาชน และภาคเอกชนต่างๆ ที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยมีบริษัทอินเทอร์เน็ตไทยแลนด์ (Internet Thailand) เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต
(Internet Service Provider: ISP) เป็นบริษัทแรก เมื่อมีคนนิยมใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น บริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ต
จึงได้ก่อตั้งเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
ที่มา https://sites.google.com/site/kruratipipatsri/4-1-khwam-hmay-laea-phathnakar-khxng-xinthexrnet


3.การเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตต้องทำอย่างไรบ้าง 
ตอบ  รูปแบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีอยู่ 2 แบบ ตามลักษณะการใช้งานซึ่งจะมีความเร็วและค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป ดังนี้

1. การเชื่อมต่อแบบส่วนบุคคล

เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านคู่สายโทรศัพท์หนึ่งเลขหมายไปยังผู้ให้บริการ (คิดค่าบริการตามจำนวนชั่วโมงในการใช้งาน) ปัจจัยที่มีผลต่อความเร็วได้แก่ สายสัญญาณโทรศัพท์ โมเด็มและความหนาแน่นของสมาชิกที่ใช้งานในขณะนั้น ผู้ใช้บริการสามารถกระจายสัญญาณไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ให้ท่องอินเทอร์เน็ตได้ในเวลาเดียวกัน

2. การเชื่อมต่อแบบองค์กร

เป็นการเชื่อมต่อที่มีความเร็วสูงกว่าแบบส่วนบุคคลและเป็นการเชื่อมต่อแบบถาวรตลอดเวลากับผู้ให้บริการด้วยสายเช่า (Lease Line) และใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น Digital Modem, Router ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าแบบส่วนบุคคล เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเครื่องลูกข่ายจำนวนมาก
ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=numpuang&month=01-04-2009&group=11&gblog=5

4.จงบอกหน้าที่ของอุปกรณ์ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตต่อไปนี้ 
ตอบ
1.เครื่องคอมพิวเตอร์  ไม่จำกัดชนิดและยี่ห้อ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้จะใช้เครื่อง PC 
2.โมเด็ม ทำหน้าที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์แลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ได้ ความเร็วของโมเด็มเป็นความเร็วในการส่งข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ โมเด็มมีขนาดความเร็วต่าง ๆ กัน   โมเด็มมีขนาดความเร็วสูงตั้งแต่ 14.4 Kbps ขึ้นไป  ส่วนใหญ่แล้วจะมีความสามารถรับส่ง Fax ได้ด้วย เรียกกว่า Fax Modem โมเด็มที่มีความเร็วสูงจะมีราคาแพงกว่า ความเร็วของโมเด็มวัดเป็นบิดต่อวินาที (bps)
      โมเด็มแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1) โมเด็มภายใน (internal modem) เป็นการ์ดที่เสียบลงบนสล็อต (slot) ของเมนบอร์ด
2)โมเด็มภายนอก (External nodem) เป็นกล่องขนาดเล็ก มีพอร์ต (port)  เพื่อเสียบสัญาณจากคอมพิวเตอร์เข้าโมเด็ม มีช่องสำหรับเสียบสายโทรศัพท์ และมีสายไฟจากโมเด็มเพื่อต่อเข้ากับไฟบ้าน
3. โทรศัพท์  เพื่อเชื่อมต่อสายโทรศัพท์เข้ากับโมเด็ม  เพื่อให้สัญญาณข้อมูลส่งผ่านสายโทรศัพท์  ดังนั้นผู้ต้องการใช้บริการอินเทอร์เน็ต  จะต้องมีโทรศัพท์หนึ่งเลขหมายในการต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต 
4.ซอฟต์แวร์  ในการใช้อินเทอร์เน็ตจะมีโปรแกรมที่เกี่ยวข้องอยู่ 3 ประเภทคือ        
1.โปรแกรมที่ใช้ในการติดต่อเพื่อจัดการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอินเทอร์เน็ต  ถ้าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการWindow 95 จะมีโปรแกรม dial-Up Networking ที่ใช้ในการสื่อสารอยู่แล้ว
       2. โปรแกรมที่ใช้รับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เช่น Eudora
       3. โปรแกรมที่ใช้ค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เรียกกว่า บราวเซอร์ (Browser) เช่น Netscape Navigator, Internet Exploer

5.ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP : Internet Service Provider)  ผู้ใช้จะต้องสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต  ซึ่งเป็นศูนย์บริการให้กับสมาชิก ซึ่งมีทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งผู้ให้บริการเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกโดยศูนย์บริการเหล่านี้จะต้องเสียเงินค่าเช่าสายสัญญาณไปต่างประเทศให้กับรัฐ



ที่มา https://sites.google.com/site/kruratipipatsri/4-1-khwam-hmay-laea-phathnakar-khxng-xinthexrnet